กลอนบทละครหมายถึง กลอนที่แต่งขึ้นเพื่อใช้ ในการแสดงละคร หลักเกณฑ์ในการแต่ง โดยทั่วไปก็เหมือนกับ การแต่งกลอนสุภาพ แต่ละวรรคมีคำได้ตั้งแต ่
๖-๙ คำ การนับกลอน บทละครจะนับเป็นคำกลอน นั่นคือ ๒
วรรคเท่ากับ ๑ คำกลอน การจะใช้คำ มากน้อยขึ้นอยู่กับทำนอง ร้องเป็นสำคัญ
การขึ้นต้น กลอนบทละคร
"เมื่อนั้น"
ใช้เมื่อขึ้นต้นกับ ตัวละครที่สำคัญ เช่นตัวเอก หรือกษัตริย ์ "บัดนั้น
" ใช้ขึ้นต้นตัวละครที่เป็น ตัวรอง เช่นเสนา อำมาตย์ หรือตัวละครธรรมดา
"มาจะกล่าวบทไป" ใช้ขึ้นต้นเมื่อเริ่มตอนใหม่
(วิเชียร
เกษประทุม ลักษณะคำประพันธ์ไทย นอกจากนั้นยังมีการขึ้นต้น ด้วยวลี
ตั้งแต่ ๒ คำ -๔ คำหรืออาจมากกว่าก็ได้
|
" เมื่อนั้น พระยาไมยราพยักษา เห็นกระบี่นอนทอดกายา ก็ปรีดาเงือดเงื้อกระบองตาล"
บัดนั้น คำแหงหนุมานชาญสมร รับรองป้องกันประจันกร วานรโถมถีบด้วยฤทธาฯ"
มาจะกล่าวบทไป ถึงเทพไทเรืองศรี อันสถิตถ้ำธารคีรี มีทิพยโสตนัยนา" (รามเกียรติ์)
|
๑.กลอนบทละครกำหนดคำในวรรค หนึ่งได้ตั้งแต่
๖-๙ คำ แต่ที่นิยม แต่งมักเป็น
๖ หรือ ๗ คำ เพราะ เข้าจังหวะและทำนองร้องได้ดี ๒.
สัมผัส ให้ถือหลักเกณฑ์ของกลอน สุภาพเป็นหลัก
เพราะกลอน บทละครเป็นกลอนผสม
ในบทหนึ่งอาจจะมีกลอน๖ กลอน๗ กลอน
๘ กลอน ๙รวมกันก้ได้ ถ้าวรรคไหนใช้กลอนอะไรก็ใช้
สัมผัสตามหลักกลอนนั้น ๓.
เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรคที่นิยม ในกลอนสุภาพนั้น
ในกลอนบทละครไม่เคร่งครัดนัก
เพราะต้องอาศัยทำนองร้องและ
เพลงปี่พาทย์เป็นสำคัญ ๔.
วรรคแรกหรือวรรคสดับของบทละคร นิยมใช้คำนำ
หรือคำขึ้นต้นเพื่อขึ้น ความใหม่หรือเปลี่ยนทำนองร้องใหม่
คำนำนี้บางทีใใช้ ๒ พยางค์ หรือ
๓ พยางค์หรือ ๔ พยางค์ แต่ต้องนับ
เป็นหนึ่งวรรคเต็ม เพราะเวลาร้อง
ต้องเอื้อนเสียงร้องให้ยาวมีจังหวะ
เท่ากับวรรคธรรมดา (วิเชียร
เกษประทุม ลักษณะคำประพันธ์ไทย )
|